เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะหลายๆท่านอาจจะประสบปัญหาในเรื่องแพะท้องอืด และไม่สามารถแก้ไขปัญหาตรงส่วนนี้ได้เพราะบางท่านอาจจะเป็นเป็นมือใหม่ที่พึ่งหัดเลี้ยง หรือบางท่านพบปัญหาแล้วไม่ทราบวิธีการแก้ที่ชัดเจน เพราะไม่ทราบว่าแพะท้องอืดแล้วจะต้องทำยังไง สาเหตุเกิดจากอะไร แล้วให้แพะกินยาอะไรถึงจะหาย ดังนั้นเราจึงพามาศึกษาไปพร้อมๆกันในบทความนี้เลยจ้า
แพะท้องอืดทำยังไง
ปัญหาโรคท้องอืดในแพะเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในการเลี้ยงแพะซึ่งถ้าแก้ไขไม่ทันอาจทำให้เกิดการสูญเสียได้ โรคท้องอืดอาจมาจากปัญหา การให้อาหารข้นในมากพอที่จะทำให้เกิดแก๊สสะสมในขยะเป็นปริมาณมาก เกิดการอุดตันของอาหารทำให้แก๊สไม่สามารถระบายไปตามทางเดินอาหารได้
วิธีการลดอาการแพะท้องอืดทำยังไง
- คุณต้องแน่ใจว่าแพะของคุณท้องอืด ไม่ได้เกิดจากกินอาหารเป็นพิษ
- จากนั้น กรอกน้ำมันพืช เพื่อลดการเกิดแก๊สในกระเพาะ ไม่ให้เพิ่มมากขึ้น
- กดท้องของแพะบริเวณสวาบด้านซ้าย ให้ยุบลง ค่อยๆ กด
- โดยจะกดแบบให้แพะนอนเอาด้านซ้ายขึ้นแล้วกด หรือ จะยืนพิงผนัง ให้ด้านซ้ายออกด้านนอก ใช้เข่าของคุณกดตรงสวาบให้ยุบลง
- ทำการกดแล้วปล่อย ทำซ้ำๆประมาณ 5-6 ครั้ง เพื่อให้น้ำมันที่กรอกเข้าไปได้กระจายในกระเพาะ และเป็นการไล่แก๊สออกบางส่วนด้วย
- จากนั้นปล่อยให้แพะยืนหรือเดิน ห้ามนอนเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไปกดกระบังลม แพะจะหายใจไม่ออก
- คุณอาจจะใช้ยาธาตุน้ำแดงหรือยาธาตุน้ำขาวกรอก เพื่อช่วยให้แพะเรอแก๊สออกมา และช่วยกดท้องให้แพะอีก 2-3 ครั้ง
- พัก 5-10 นาที จากนั้นให้ทำการกรอกน้ำมันพืชซ้ำ แล้วทำการกดท้องอีกครั้ง โดยทำการกดแล้วปล่อย 5-6 ครั้ง ปล่อยให้เดินหรือยืน
- อาจจะใช้ยาช่วยย่อย เฮปปาเจน ฉีดเข้ากล้ามเนื้อคอลึกๆปริมาณ 3-5 ซีซี
แพะท้องอืดอาการโคม่าต้องทำยังไง
ถ้าพบว่าแพะเป็นหนักถึงขนาดท้องโป่งแข็งมาก กดไม่ลง หายใจรวยระริน ให้เลือกทำตามขั้นตอนดังนี้
รูปแบบที่ 1
- ใช้สายยางวัดระดับน้ำขนาดประมาณนิ้วก้อย ทาด้วยน้ำมันพืชเพื่อให้หล่อลื่น สอดเข้าปากแพะให้ถึงกระเพาะหมักรูเมน
- การตรวจว่าถึงกระเพาะหมักหรือไม่ ให้ดึงสายยางวัดจากปากถึงสวาบ แล้วทำสัญลักษณ์ไว้
- เมื่อสอดเข้าไปในปากให้สอดจนถึงจุดที่ทำสัญลักษณ์ไว้ เมื่อสอดสายยางเข้าถึงกระเพาะแล้ว ค่อยๆ กดท้องไล่แก๊สออก อาจมีน้ำเขียวๆ ออกมาด้วยพร้อมแก๊ส ให้กดเรื่อยๆ จนกว่าท้องจะยุบเป็นปกติ
- ปล่อยทิ้งไว้สักระยะให้มั่นใจว่า แก๊สจะไม่เกิดซ้ำขึ้นอีก ถอดสายยางออก
- กรอกน้ำมันพืชซ้ำ และฉีดยาเฮปปาเจน 3-5 ซีซี ปล่อยให้แพะยืนหรือเดิน แล้วเฝ้าดูอาการ จนเห็นว่า ถ่ายได้ เคี้ยวเอื้อง และกินอาหารได้ จึงจะปลอดภัย
รูปแบบที่ 2
- ใช้เข็มฉีดยา เบอร์ 18 เข็มยายาว 5 นิ้ว ปักบริเวณสวาบด้านซ้าย 1-2 เข็ม ให้จมสุดเข็ม
- วิธีการปักเข็ม ให้มือกดท้องให้ยุบลง แล้วปักเข็มให้จม มือที่กดอย่าปล่อย ให้กดลงเรื่อยๆ เพื่อระบายแก๊สออกมา กดจนกว่าแก๊สจะออกหมด
- ให้กดคาไว้สักพัก ค่อยดึงเข็มออก
- ให้ทำการกรอกน้ำมันพืชซ้ำ และฉีดเฮปปาเจน 3-5 ซีซี ปล่อยให้แพะยืนหรือเดิน แล้วเฝ้าดูอาการ จนเห็นว่า ถ่ายได้ เคี้ยวเอื้อง และกินอาหารได้ จึงจะปลอดภัย
สาเหตุแพะท้องอืด
อาหารที่มีโปรตีนสูง พลังงานสูง หรือมีเยื่อใยต่ำ
- ทำให้จุลินทรีย์ที่ทำงานผลิตแก๊สออกมามากทำให้กระเพาะหมักระบายแก๊สไม่ทันและเกิดท้องอืด
- แก๊สที่สะสมในกระเพาะหมักจะไปดันกระบังลม ทำให้ปอดทำงานไม่ได้หายใจไม่ได้
- แพะที่ตายจากสาเหตุนี้ จะมีลักษณะอาการนอนท่าราบ ขาเหยียดตรง ลิ้นจุกปาก พบการตายจากสาเหตุนี้มากที่สุด
ท้องอืดจากการกินสารพิษ
- โดยจะทำให้จุลินทรีย์ตาย แก้โดย ใช้ยา อาโทรฟิน และคอเฟ
- หลังจากนั้นระบายแก๊สออกอาจใช้สายยางก็ได้และก็ใช้สายยางนี้ดูดน้ำหมักในกระเพาะตัวอื่นมาใส่ จะทำให้แพะฟื้นตัวไวขึ้น
ท้องอืดเนื่องจากกระเพาะหมักไม่บีบตัว
- จะสามารถตรวจได้โดยการเอาหูไปแนบกับกระเพาะหมักที่อยู่ทางด้านซ้าย จะได้ยินเสียงเหมือนฟ้าร้อง 1 นาที จะดัง 2 ครั้ง
- แต่การที่กระเพาะไม่บีบตัว อาจเกิดจากสารพิษหรือโดนอะไรทิ่มแทงได้ ก็รักษาตามอาการ
เกิดจากการกินสิ่งแปลกปลอมที่ย่อยไม่ได้
- ยกตัวอย่างเช่นถุง กระสอบอาหาร เชือก สายไฟ สายยาง ถุงมือ และอื่นๆ อีกมากมาย
- เมื่อแพะกินเข้าไป จะถูกกระเพาะหมักบีบรวมกันเป็นก้อนหลังจากนั้นก็จะเข้าไปอุดที่ระบบทางเดินอาหารของแพะ
- ทำให้การระบายแก๊สที่เกิดขึ้น ไม่ดีพอเกิดเป็นท้องอืด หรือ อาหารไม่สามารถผ่านไปกระเพาะต่อไปไม่ได้
- อาหารแห้งเพราะว่าน้ำผ่านไปหมดแล้ว ก็จะรวมก้อนกันเป็นก้อนแข็งๆ
ปัญหาอาหารไม่ย่อย
1.อาการท้องอืด
- โดยปกติแล้วมักไม่ค่อยเป็นในแพะ แต่จะพบเสมอในโค-กระบือและแกะ
- สาเหตุเกิดจากการกินต้นพืชอ่อนๆ จำนวนมากเกินไป จึงทำให้เกิดเป็นแก๊สขึ้นในกระเพาะหมักรูเมนอย่างรวดเร็ว และอาจทำให้สัตว์ตายอย่างกะทันหันได้
- โดยทั่วไปจะพบหลังจากที่ปล่อยสัตว์ลงแปลงหญ้าอ่อน หรือแปลงต้นข้าวโพดอ่อนในฤดูฝน
- สัตว์จะมีอาการท้องด้านซ้ายขยายใหญ่ขึ้นผิดปกติ เนื่องจากแก๊สหรือฟองอาหารในกระเพาะหมักรูเมนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและแน่นกระเพาะ
- ซึ่งสัตว์ไม่สามารถเรอออกมาได้ สัตว์กระวนกระวาย หายใจไม่สะดวก ล้มลงนอนทันที ขาทั้งสี่เหยียดและตายเนื่องจากหายใจไม่ออก
- การรักษา โดยการใช้น้ำมันพืช ขนาด 4-8 ออนซ์ กรอกปากหรือจะใช้วิธีการเจาะสวาปด้านซ้ายตรงกระเพาะหมักของสัตว์ก็ได้ เพื่อระบายแก๊สออกจากกระเพาะให้เร็วที่สุด จะได้หายใจสะดวกขึ้น
- โรคลำไส้อักเสบเป็นพิษ มักพบเป็นโรคแทรกซ้อน หรือเกิดร่วมกับโรคท้องอืดเสมอๆ
- อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการท้องอืดก็คือการสำลักหรืออุดตันของอาหาร ในหลอดอาหาร
- การแก้ไขอาการอุดตันทำได้โดยการใช้ท่อสอดกระเพาะอาหาร และเทน้ำมันพืช ประมาณ 2 ออนซ์ เข้าไปเหนือบริเวณที่อาหารอุดตัน
2.อาการอาหารไม่ย่อยและอัดแน่นในกระเพาะ
- ปัญหาการอัดแน่นในกระเพาะแรก หรืออาหารย่อยได้บ้างไม่ได้บ้างแบบเรื้อรังนี้ เกิดขึ้นกับแพะนมบ่อยครั้ง
- เนื่องจากแพะได้รับอาหารที่มีคุณภาพต่ำ มีโปรตีนและพลังงานไม่เพียงพอ
- อาการที่สังเกตได้คือ ท้องจะแข็งตึง หยุดเคี้ยวเอื้อง และมีร่างกายทรุดโทรมอ่อนแอ ในที่สุดก็ตาย
- สำหรับในลูกแพะจะพบว่ามีนมจับกันเป็นก้อนใหญ่ในกระเพาะ
- การแก้ไขปัญหาอาหารไม่ย่อยแบบเรื้อรังนี้ ทำได้โดยการจัดการเกี่ยวกับอาหาร และการให้อาหาร
- จะต้องให้อาหารที่มีโปรตีนและพลังงานเพียงพอกับความต้องการของแพะ การเปลี่ยนอาหารก็จะต้องค่อยเป็นค่อยไปและต้องให้อาหารตรงต่อเวลาด้วย
- ผู้เลี้ยงสัตว์ควรคำนึงอยู่เสมอว่า การเกิดความเครียดของสัตว์นั้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกายเกิดอาการผิดปกติได้เสมอ
3.แผลในกระเพาะแท้
- การเกิดแผลในกระเพาะแท้ ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบได้ในแพะ โดยเฉพาะในแพะฤดูแห้งแล้ง หรืออาหารสัตว์มีไม่เพียงพอ
- แพะก็จะได้รับอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงทำให้เกิดแผลในกระเพาะแท้ขึ้นได้ เพราะในกระเพาะมีสภาพเป็นกรดมากนั่นเอง
- อาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่แพะได้รับอาหารจำพวกเมล็ดพืชมาก และพืชหญ้าแห้งหรือหญ้าสดน้อยในระยะให้นม
- แผลในกระเพาะแท้ที่เกิดขึ้นอาจทำให้กระเพาะทะลุและสัตว์ตายได้ เนื่องจากการเสียเลือด หรือเยื่อบุของท้องอักเสบอย่างรุนแรง
การแสดงอาการท้องอืดในสัตว์เคี้ยวเอื้อง
- สัตว์จะแสดงอาการท้องโป่งด้านซ้ายแข็งกดท้องจะแน่น
- สัตว์จะแสดงอาการเดินยืดตัว หลังแอ่น จะนอนและลุก ทำเช่นนี้บ่อยๆ และจะมีเสียงเบ่ง คล้ายสัตว์จะคลอดลูก
- ต่างกันที่สัตว์ท้องอืด ท้องจะโป่งโดยเฉพาะสวาบด้านซ้าย โป่งคล้ายลูกโป่ง กดแล้วจะแน่นแข็งๆ
- ถ้าไม่มีการแก้ไขสัตว์จะตัวเกร็งจนชักตายในที่สุด
- ปัญหาการเกิดท้องอืด เกิดจากการสะสมแก๊สในทางเดินอาหารของสัตว์และสัตว์ไม่สามารถขับออกมาได้ เนื่องจากมีแก๊สเกิดขึ้นมากผิดปกติ หรือแก๊สเกิดปกติแต่สัตว์ไม่สามารถเรอเอาแก๊สออกมาได้
- สาเหตุ ของการเกิดแก๊สในกระเพาะ สัตว์ได้รับอาหารพวกถั่วสูงเกินไป
- สัตว์ได้รับพืชใบเลี้ยงคู่หรือตระกูลถั่วในจำนวนมาก ซึ่งพืชเหล่านั้นจะมีโปรตีนที่ละลายได้ง่ายสูง
- ทำให้สารละลายในกระเพาะหมัก เกิดแรงตึงผิวสูง เมื่อเกิดแก๊สจากกระบวนการหมักจึงดันของเหลวให้เกิดเป็นฟองอากาศเหมือนฟองสบู่ที่ข้นและเหนียว แตกตัวยากหรือไม่ยอมแตก
- จนเป็นเหตุให้ฟองอากาศสะสมขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลทำให้ท้องอืด
- สัตว์ได้รับหญ้าอ่อนหรือยอดอ่อนมาก เวลาสัตว์กินหญ้าอ่อนมักจะกินเร็ว ในหญ้าอ่อนมีสารในโปรตีนที่เรียกว่า Soluble protein สูง ซึ่งเป็นตัวให้เกิดฟอง
- การเปลี่ยนสูตรอาหารเร็วเกินไป โดยเฉพาะอาหารข้น ทำให้จุลินทรีย์ปรับตัวไม่ทันเกิดอาการอาหารไม่ย่อย
แพะท้องอืดกินยาอะไรถึงหาย
เมื่อแพะของท่านเกิดอาการท้องอืดเราไม่สามารถตอบได้ว่าให้กินยาตัวไหนแล้วแพะจะหายอาการท้องอืด การรักษาอาการท้องอืดในแพะนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราพบแพะในระยะไหน ระยะที่เริ่มต้น หรือระยะที่รุนแรงจนรักษาไม่ได้ ดังนั้นเราจึงนำวิธีการข้างต้นในการรักษาแพะท้องอืดมาบอกกันตามนี้เลยจ้า
- ใช้น้ำมันพืชกรอกปาก 10 ซีซี แล้วกดท้องตรงสวาบด้านซ้ายค่อยๆ กดแล้วปล่อยทำซ้ำๆ
- ให้พยุงหัวขึ้นหรือหนุนหัวขณะกดท้อง กรอกน้ำมันพืชซ้ำอีก 10 ซีซี แล้วกดท้องซ้ำๆ อีก จนท้องนิ่มปกติ รอดูอาการ 5-10 นาที
- ถ้าสัตว์คลายตัวเริ่มเดินปกติหรือเห็นถ่ายขี้ออกมา ถือว่าปลอดภัย ให้กรอกน้ำมันพืชอีกครั้ง 10 ซีซี
- ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นใช้สายยางที่ใช้วัดระดับน้ำตัดยาวประมาณ 70-80 เซนติเมตร ค่อยๆ สอดเข้าทางปากให้สอดจนถึงกระเพาะหมัก จากปากถึงสวาบด้านซ้าย แล้วทำเครื่องหมายไว้ เวลาสอดเข้าไปให้ถึงจุดที่ทำเครื่องหมายไว้
- จากนั้นให้กดท้อง แก๊สจะออกมาพร้อมน้ำเขียวๆ ที่ปลายสายยาง ให้ทำการกดจนท้องนิ่มปกติ จึงถอดสายยางออก ตามด้วยการกรอกน้ำมันพืช 20-30 ซีซี
วิธีการใช้ยาฉีดแก้ท้องอืด
ฉีดรูมิเซน-Rumicen
สรรพคุณ
- Simethicone ออกฤทธิ์ ลดแรงตึงผิวของฟองก๊าซ ทำให้ฟองก๊าซขนาดเล็กแตกตัวกลายเป็นก๊าซอิสระที่สัตว์สามารถขับออกจากร่างกายได้
- Calcium saccharate ช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะ ทำให้ลดการเกิดก๊าซใหม่เพิ่มขึ้น
- Pilocarpine Hydrochloride ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยให้กระเพาะอาหาร และลำไส้บีบตัว ขับก๊าซส่วนเกินออกจากร่างกาย และช่วยให้อาหารในกระเพาะรูเมนเคลื่อนตัวไปสู่กระเพาะต่อไป
การออกฤทธิ์ของยา
- จากคุณสมบัติของส่วนประกอบต่างๆ ในสูตรยา รูมิเซน จะช่วยลดความหนืดของของเหลว และสารอาหารในกระเพาะรูเมน รวมทั้งแรงตึงผิว
- ยา รูมิเซน จะสามารถลดฟองก๊าซ โดยเฉพาะในรายของพยาธิสภาพของกระบวนการเกิดฟองก๊าซ
- จากการออกฤทธิ์ของ Pilocarpine Hydrochloride ที่มีผลต่อระบบประสาทชนิด parasympatrotic ทำให้กระเพาะมีการเคลื่อนไหวด้วยการบีบตัวร่วมกับฤทธิ์ของ Calcium saccharate ไปขับอาหารออก และช่วยดูดซึมสารพิษ
- เมื่อพบว่าสัตว์เริ่มมีอาการท้องอืด ให้รีบป้อน รูมิเซน ให้กินทันที หลังจากนั้นจูงเดินเพื่อให้สัตว์ขับก๊าซที่แตกตัวจากฟองอากาศออกมา
ข้อดีของ รูมิเซน
- ผู้เลี้ยงสามารถป้อนได้เองทันทีที่พบว่าสัตว์เริ่มมีอาการท้องอืด
- ทำให้สามารถรักษาได้รวดเร็วโดยที่อาการไม่ทรุดหนักลง ลดการสูญเสียจากการตาย เนื่องจากให้การรักษาล่าช้า และไม่ตกค้างในเนื้อ หรือน้ำนม ทำให้สามารถส่งนมได้ตามปกติ
ข้อบ่งใช้
- ใช้ในกรณีที่เกิดโรคท้องอืดชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง
- กระเพาะไม่มีการเคลื่อนตัว อาหารไม่ย่อยเพราะกระเพาะไม่มีการเคลื่อนไหว
- เกิดสภาพเป็นกรดและด่าง และเกิดความผิดปกติต่อกระเพาะรูเมน
ขนาดและวิธีใช้
- ให้ยาโดยการกินหรือฉีด ซึ่งปริมาณของยาจะขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์ต่างๆ
- แพะ แกะ 25 มิลลิลิตร
- ให้โดยการกิน นำยาตามขนาดที่ใช้เบื้องต้นไปเจือจางกับน้ำ 1 ลิตร หรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ กรอกให้สัตว์กิน หรือให้โดยผ่านสายยางสอดเข้าหลอดอาหารโดยตรง
- ให้โดยการฉีด ใช้ในกรณีเกิดโรคท้องอืดเฉียบพลัน ฉีดยาในปริมาณที่กำหนดเข้าไปในกระเพาะรูเมน โดยฉีดทางบริเวณสวาปด้านซ้าย
ฉีด Hepagen เฮปปาเจน
สรรพคุณ
- ใช้เป็นยากระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีให้มากขึ้น ยานี้ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เข้าช่องท้อง และฉีดช้า ๆ เข้าเส้น
- เป็นยาที่เหมาะสำหรับใช้ในการรักษาอาการที่เกิดร่วมกับโรคตับ มีสรรพคุณต่ออาการที่เกี่ยวเนื่องกับตับ มีฤทธิ์ในทางขับน้ำดี ช่วยกระตุ้นตับให้มีการผลิตน้ำดีให้มากขึ้น และยังมีสรรพคุณบรรเทาปวด และลดอาการหดเกร็งของท่อน้ำดี
- ยาเฮปปาเจนออกฤทธิ์โดยตรงต่อตับ ช่วยเพิ่มการขับน้ำดีโดยเซลเฮปปาโตไซท์ในตับ
- ช่วยเพิ่มการทำงานของอวัยวะที่เกี่ยวข้อง กับขบวนการย่อยอาหาร ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำย่อยของตับอ่อน และน้ำย่อยเป็ปซินในกระเพาะ
- ยานี้จะออกฤทธิ์โดยตรงต่อต่อมที่มีหน้าที่ในการขับน้ำย่อย แต่ไม่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท – พาราซิมพาธิติค
ข้อบ่งใช้
- โดยทั่วไป อาการอาหารไม่ย่อยและไม่ถูกดูดซึม อาหารเป็นพิษ-คีโตซีส
- เบื่ออาหาร ท้องอือท้องเฟ้อ
- ใช้เป็นยาช่วยในการรักษาอาการที่มีพยาธิในกระเพาะและลำไส้
ขนาดและวิธีใช้
- ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อลึก ๆ ฉีดเข้าช่องท้อง หรือฉีดช้า ๆ เข้าเส้น
- แกะ แพะ สุนัข ใช้ยา 1 ซีซี ต่อน้ำหนักตัว 10 กิโลกรัม
- ขนาดยานี้ อาจให้ซ้ำได้ทุก ๆ 24 ชั่วโมงตามคำสั่งสัตวแพทย์
ข้อควรระวัง
- ยาเฮปปาเจน ห้ามใช้ผสมกับน้ำยาพวกที่มีส่วนประกอบของเกลือแคลเซียม
วิธีรักษา แพะท้องป่อง
การรักษาอาการเบื้องต้นโดยวิธีดังต่อไปนี้
การใช้ยาฉีดแก้ท้องอืด
- ฉีดรูมิเซน-Rumicen เข้าสวาบด้านซ้ายให้ทะลุถึงกระเพาะหมัก
- ฉีดHepagen เฮปปาเจน เข้ากล้ามเนื้อส่วนที่แผงคอลึกๆ
- ใช้สายยางที่ใช้วัดระดับน้ำตัดยาว สอดเข้าทางปากให้สอดจนถึงกระเพาะหมัก ตามด้วยการกรอกน้ำมันพืช 20-30 ซีซี
- ใช้น้ำมันพืชกรอกปาก 10 ซีซี แล้วกดท้องตรงสวาบด้านซ้าย
เบกกิ้งโซดารักษาแพะท้องอืด
เบกกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต มีความเป็นเบส ที่จะทำหน้าที่ปรับ pH ของกระเพาะหมักทำให้เป็นกลาง ลดการผลิตแก๊ส
- การใช้เบกกิ้งโซดาปรับความเป็นกรดโดยใช้ 2 ช้อนชา
- นำมาผสมน้ำประมาณขวดลิโพกรอกให้กิน รวมกับการสอดสายยางก็จะได้ผลไวขึ้น
การเจาะท้องแพะ
กรณีเป็นหนักมากต้องแก้วิธีเร่งด่วน
- ให้ใช้ trocar cannula หรือเหล็กกลวงก้านร่มตัดเป็นปากฉลามเหลาให้แหลม
- ทำความสะอาดเช็ดแอลกอฮอร์ที่ปลายเหล็กก่อนแทง จากนั้นแทงตรงสวาบด้านซ้ายถึงกระเพาะ ปักคาไว้
- ถ้าไม่มี trocar cannula ให้ใช้เข็มเบอร์ใหญ่สุดแทนได้ เบอร์ใหญ่ที่ขายทั่วๆไป คือเบอร์ 18 ให้ปักคาไว้หลายๆ เข็มที่สวาบด้านซ้ายจนจมเข็มประมาณ 4-5 เข็ม
- ใช้มือกดเบาๆ แก๊สจะพุ่งออกตามรูเข็ม เมื่อท้องยุบลงแล้ว ให้กรอกน้ำมันพืชอีก 10 ซีซี ป้องกันการเกิดแก๊สซ้ำ
การป้องกันแพะท้องอืด
- แพะเนื้อ เมื่อเสริมด้วยอาหารข้นสำเร็จรูป ให้อาหารข้นในอัตรา ไม่เกิน 1% ของน้ำหนักตัวต่อ หากอาหารหยาบมีความสมบูรณ์ดีแล้ว (ดูจากคะแนนสภาพร่างกาย) ก็ไม่จำเป็นต้องให้อาหารข้นเสริม
- แบ่งอาหารข้นออกเป็น 2-3 มื้อต่อวัน
- อย่าให้อาหารข้นแบบตั้งทิ้งไว้ตลอดเวลาหรือสับบดละเอียด ดังเช่นที่พบในกรณีตัวอย่างสัตว์ป่วยนี้ซึ่งเกษตรกรให้ลำต้นสาคูขูดผสมกับรำตั้งทิ้งไว้ให้กินตลอดเวลา
- ปรับปริมาณอาหารข้นที่มีแป้งมากให้มีปริมาณเหมาะสม
- ให้อาหารหยาบก่อนที่จะให้อาหารข้น
- ลดผลกระทบจากสภาพเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสภาวะเป็นกรดในกระเพาะ อาจให้ sodium bicarbonate หรือ calcium carbonate ผสมลงในอาหารข้น 5–2%